ปัจจุบัน ร้านสะดวกซื้อถือเป็นหนึ่งในสถานที่กระจายสินค้าแก่คนทั่วไป ทำให้หลาย ๆ ธุรกิจโดยเฉพาะอาหารต่าง ๆ อยากนำสินค้าเข้ามาขาย จากข้อมูลของเว็บไซต์ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เมื่อช่วงต้นปี 2566 ที่ผ่านมา พบว่าใน 1 วันมีลูกค้าร้านสะดวกซื้อเจ้าใหญ่มากถึง 11,800,000 คน จึงเป็นข้อพิสูจน์ว่าร้านสะดวกซื้อคือตลาดใหญ่ที่สินค้ามากมายควรทำการตลาดที่นี่

แม้ว่าจะมีข้อบังคับและข้อจำกัดต่าง ๆ มากมาย แต่การจะนำเข้าไปหากคุณไม่รู้กลุ่มตลาดหลักของร้านสะดวกซื้อ อาจทำให้ยอดขายไม่เข้าเป้า ทั้งนี้จากข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่บันทึกกลุ่มลูกค้าไว้ตั้งแต่ 2557 – 2560 G2B ได้ใช้ข้อมูลมาวิเคราะห์พร้อมแนะนำกลุ่มลูกค้าหลักของร้านสะดวกซื้อว่ามีกลุ่มไหนบ้าง เพื่อให้การทำการตลาดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด มีกลุ่มไหนไปดูกันเลย

กลุ่มตลาดของร้านสะดวกซื้อ

– คนเร่งรีบ : ลูกค้ากลุ่มนี้มักจะมีชีวิตประจำวันที่รวดเร็วจึงต้องการอาหารหรือเครื่องดื่มที่สามารถรับประทานได้ทันทีไม่ต้องใช้เวลานาน กินมื้อเดียวอิ่มนาน ๆ ของพร้อมกินเช่น ขนมปัง ขนมหวาน สลัด น้ำผลไม้ และเครื่องดื่มต่าง ๆ เป็นกลุ่มสินค้าที่ตอบโจทย์ได้ 

โดยการตลาดที่แนะนำให้เน้นโชว์เรื่องความรวดเร็ว, กินแล้วอิ่มนานและสะดวกในการกิน เพื่อให้ลูกค้าทราบว่าสินค้าตัวนี้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของพวกเขา นอกจากนี้การพยายามให้สินค้าขึ้นวางบนชั้นที่เห็นได้ชัดก็มีส่วนสำคัญ อาจเน้นไปที่จัดโปรโมชันพิเศษเพื่อกระตุ้นให้ร้านสะดวกซื้อจัดวางสินค้าให้อยู่ในจุดที่สะดวกต่อการหยิบซื้ออย่างรวดเร็วมากขึ้น

– ลูกค้ารายวัน : ลูกค้ากลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่เข้าร้านสะดวกซื้อเป็นประจำทุกวัน โดยอาจจะเป็นคนที่ทำงานใกล้ ๆ ร้าน หรือ พักอาศัยบริเวณดังกล่าว ส่วนใหญ่ลูกค้ากลุ่มนี้จะไม่ได้ซื้อแค่อาหารสำเร็จรูปเท่านั้น อาจจะมีส่วนของวัตถุดิบ หรือ กับข้าวต่าง ๆ ด้วย ฉะนั้นกลุ่มธุรกิจประเภทอาหารแช่แข็งต่าง ๆ, กับข้าวสำเร็จรูป จะเหมาะสมที่สุดกับกลุ่มตลาดนี้

สำหรับการทำการตลาดจะแตกต่างจากกลุ่มลูกค้าที่เร่งรีบ เพราะลูกค้ากลุ่มนี้จะมีแนวทางการซื้อสินค้าที่ชัดเจนและมีเป้าหมายตั้งแต่แรก ฉะนั้นการนำเสนอในเรื่องความอร่อยและความหลากหลายจะเป็นส่วนสำคัญที่สุดที่ทำให้ลูกค้าให้ความสนใจกับเราได้ หรือการจัดโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะซื้อที่ร้านสะดวกซื้อก็ช่วยกระตุ้นความสนใจมากขึ้นด้วยเช่นกัน

– พนักงานบริษัท : จากข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ลูกค้ากลุ่มนี้ถือเป็นตลาดใหญ่โดยจำนวนมากถึง 30% จากทั้งหมด ปกติแล้วพนักงานบริษัทจะเน้นซื้อของกินเล่นระหว่างทำงาน เช่น ลูกอม, ขนมขบเคี้ยว, อาหารว่าง, เครื่องดื่มต่าง ๆ และพวกเขาจะไม่ได้เข้ามาในร้านสะดวกซื้อเป็นประจำ 

กลุ่มพนักงานบริษัทจะมีความยืดหยุ่นในการซื้อสินค้าสูงมาก ทำให้การทำการตลาดให้ดีไม่ใช่เรื่องที่ง่าย ๆ แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาให้ความสนใจคือเรื่องของราคา การทำราคาให้เหมาะสมกับปริมาณจะเพิ่มความน่าซื้อมากขึ้น เพราะพวกเขาแค่ต้องการอาหารระหว่างมื้อการทำให้ราคาสูงเกินไปอาจไม่ใช่คำตอบ นอกจากนี้การอธิบายสรรพคุณพิเศษเช่น กระตุ้นการทำงานของสมอง หรือ ช่วยเพิ่มพลังระหว่างทำงาน ก็สามารถสร้างความน่าสนใจได้เช่นกัน

– นักท่องเที่ยว: จากข้อมูลการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในปี 2565 ลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศมีจำนวนมากถึง 29 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เข้ามาเพื่อหาเสบียงในการเดินทาง หรือ ท่องเที่ยวต่อ สินค้าขายดีจะเป็นกลุ่มเครื่องดื่มต่าง ๆ แต่ว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวต่างประเทศก็จะสนใจสินค้าที่หาไม่ได้ในประเทศของเขาเช่นกัน 

จากข้อมูลได้มีการเผยว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้าร้านสะดวกซื้อมากที่สุดจำนวน 3 ประเทศได้แก่ จีน, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ให้ความสนใจกับสินค้ากลุ่มอาหารกล่อง, เครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยวมากที่สุด เพราะสามารถทานได้สะดวกและยังเหมาะสมกับการท่องเที่ยว

โดยหากจะทำการตลาด แนะนำให้เน้นไปที่กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วยการนำสินค้าพื้นบ้านหรือ OTOP ที่ไม่สามารถหาได้ทั่วไปมาขาย เน้นไปที่การดัดแปลงให้เป็นอาหารกล่องพร้อมทาน หรือ ขนมขบเคี้ยวเพื่อสนองความต้องการ อาจมีการติดต่อที่ร้านสะดวกซื้อสาขาที่มีลูกค้ากลุ่มนี้เยอะ ๆ เปิดบูทให้ชิมฟรีกระตุ้นยอดขายของสินค้าได้มากขึ้น อย่างไรก็ตามส่วนนี้จำเป็นต้องมีการศึกษาพื้นที่การขายให้ดี เพราะสินค้า OTOP บางอย่างอาจไม่เหมาะทั้งในเรื่องกลุ่มตลาดในพื้นที่ หรือ ข้อจำกัดด้านการขนส่งและการเก็บรักษา

– กลุ่มคนทำคอนเทนต์ออนไลน์ : ลูกค้ากลุ่มนี้กำลังเป็นกลุ่มใหม่ที่น่าสนใจ โดยจะเป็นคนที่ซื้อของกินในร้านสะดวกซื้อมาทำคอนเทนต์หลากหลาย เช่น การชิมแล้ววิจารณ์ หรือ การผสมเป็นอาหารชนิดใหม่ ลูกค้ากลุ่มนี้จึงมักจะมองหาสินค้าใหม่ ๆ หรือน่าสนใจตลอดเวลา

การทำตลาดกลุ่มนี้ก่อนอื่นจะต้องทำสินค้าอาหารที่แปลกใหม่ไม่เห็นทั่วไป เพื่อให้คนทำคอนเทนต์สนใจเอาสร้างคอนเทนต์ ซึ่งจะกระตุ้นการทำยอดขายให้ลูกค้าทั่วไปด้วย แต่หากทำสินค้าอาหารที่ “สามารถดัดแปลงเมนูได้หลากหลาย” ก็จะช่วยให้กลุ่มตลาดกลุ่มนี้ซื้อสินค้าบ่อยขึ้นกลายเป็นการขยายตลาดได้เช่นกัน

สรุปแล้วการเข้าใจกลุ่มตลาดลูกค้าบนร้านสะดวกซื้อ จะช่วยให้คุณสามารถทำการตลาดได้อย่างถูกต้อง ไม่ให้การนำสินค้าเข้าไปในร้างสะดวกซื้อที่มีขั้นตอนมากมายเป็นการเสียเวลาเปล่า อีกทั้งการเข้าใจกลุ่มตลาดของสินค้า ทำให้เราสามารถหาแนวทางการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพและตอบโจทย์กลุ่มตลาดที่กว้างขึ้นได้ในอนาคตด้วยเช่นกัน

และหากคุณกำลังมองหาผู้ช่วยในด้านธุรกิจ ทั้งด้านการประสานงานเพื่อนำสินค้าเข้าสู่ร้านสะดวกซื้อ, ทำการตลาดออนไลน์ และคอนเทนต์สนับสนุนการขายแบบครบวงจร เรา G2B พร้อมให้บริการคุณด้วยแพ็คเกจการตลาดครบวงจรที่คุณสามารถเลือกได้ตามต้องการ สามารถกดเข้ามาได้เลยที่นี่

ติดตามเนื้อหาเพิ่มเติมของ G2B ได้ที่ Facebook และสามารถติดต่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE ของเรา

ข้อมูลอ้างอิง

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
7-Eleven

inquiry form