
ในปัจจุบัน โซเชียลมีเดียมีบทบาทสําคัญอย่างมากในการทําให้สินค้าและบริการเป็นที่รู้จัก แต่หากจะเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น การใช้ Ads ของแพลตฟอร์มถือเป็นทางเลือกที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพที่สุด จากข้อมูลของ Facebook Business Impact Report เผยว่าการใช้ Ads ทำให้สินค้ามียอดขายเพิ่มขึ้นจากเดิมเฉลี่ย 12% และยังดึงดูดให้คนเข้าเว็บไซต์มากขึ้น 16% อีกด้วย
แต่คำถามคือ แล้วเราจะใช้ Ads อย่างไรให้มีคุณภาพที่สุด วันนี้ G2B จะมาเผยเคล็ดลับที่เสริมประสิทธิภาพโฆษณาของคุณให้แข็งแกร่ง และคุ้มค่าเงินที่จ่ายไปกันครับ

4 ข้อให้การยิง Ads มีประสิทธิภาพ
– รู้กลุ่มตลาดของคุณ : คุณจะยิง Ads ไม่ได้ประสิทธิภาพเลยถ้าคุณไม่รู้ว่า กลุ่มเป้าหมายที่คุณจะขายสินค้าคือใคร จริงอยู่ว่าการกำหนดกลุ่มตลาดให้กว้างที่สุดก็จะช่วยให้สินค้าของคุณเข้าถึงจำนวนคนได้มากขึ้น แต่มันก็แลกมาด้วยเม็ดเงินมหาศาลที่ลงทุนไป จนมีความเสี่ยงสูงที่จะไม่คุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไป อีกทั้งอาจสร้างแง่ลบกับแบรนด์ของเราได้ หากโฆษณาไปปรากฎให้กับคนที่ไม่สนใจสินค้าของคุณแต่แรกอยู่แล้ว
การศึกษากลุ่มตลาดของคุณไล่ตั้งแต่ เพศ, อายุ, การงาน, ความสนใจ, ข้อมูลที่พวกเขาติดตาม ยิ่งลงลึกเท่าไหร่การยิงโฆษณาตรงกลุ่มตลาดก็จะมากขึ้น ที่สำคัญคือจะช่วยลดต้นทุนค่าโฆษณาลงและได้ผลกำไรกลับมามากยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งการศึกษาสามารถทำได้ตั้งแต่การสอบถามกลุ่มลูกค้าของคุณ, การใช้เครื่องมือวิเคราะห์การตลาดออนไลน์เช่น Google Analytics, Mandala AI เป็นต้น
– เลือกแพลต์ฟอร์มที่เหมาะสมกับคุณ : ในปัจจุบัน แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมีมากมาย และแต่ละแพลตฟอร์มก็มีกลุ่มตลาดที่แตกต่างกันด้วยเช่นกัน ฉะนั้นเมื่อคุณรู้แล้วว่ากลุ่มตลาดของคุณคือใคร สิ่งต่อไปที่ต้องทำคือ เราต้องวิเคราะห์ว่าแล้วกลุ่มตลาดของเราใช้แพลตฟอร์มโซเชียลอันไหนมากที่สุด ซึ่งเราจะแนะนำ 5 แพลตฟอร์มที่มีจำนวนผู้ใช้สูงว่า แต่ละแพลตฟอร์มเป็นอย่างไร
Facebook:
กลุ่มผู้ใช้: ผู้ใหญ่ทุกวัย, ธุรกิจและผู้บริหาร, ครอบครัว, นักศึกษา
ลักษณะทางธุรกิจ: ใน Facebook, คุณจะพบกลุ่มทั่วไปที่มีความหลากหลาย. ธุรกิจสามารถโปรโมตสินค้าหรือบริการที่เหมาะกับทุกระดับอายุและทุกกลุ่มคน. ครอบครัวใช้ Facebook เพื่อแบ่งปันข้อมูลและภาพรวมของพวกเขา.
Instagram:
กลุ่มผู้ใช้: ผู้ใช้ Instagram มีแนวโน้มที่จะเป็นคนที่ต้องการแชร์รูปภาพและลงตัว. ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงในช่วงอายุ 18-34 ปีที่สนใจในการแสดงความสวยงาม, การเดินทาง, และแบรนด์สินค้าชั้นนำ.
ลักษณะทางธุรกิจ: ธุรกิจด้านแฟชั่น, ความงาม, อาหาร, และการเดินทางทำการโฆษณาที่นี่. ภาพถ่ายที่สวยงามและเนื้อหาที่สร้างสรรค์มีความสำคัญ.
Twitter:
กลุ่มผู้ใช้: ผู้ใช้ Twitter มีแนวโน้มที่จะเป็นคนที่ต้องการข้อมูลทันเหตุการณ์, การเมือง, และการสื่อสาร. มีความหลากหลายทั้งทางอาชีพและวัฒนธรรม.
ลักษณะทางธุรกิจ: บริษัทที่ต้องการการตอบโต้ที่รวดเร็วต่อเหตุการณ์ปัจจุบัน. สื่อมวลชน, บริษัทเทคโนโลยี, และสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับวงการบันเทิงมักใช้ Twitter.
TikTok:
กลุ่มผู้ใช้: ผู้ใช้ TikTok มีอายุเฉลี่ยต่ำกว่า 30 ปี, มีลักษณะที่มีความคล่องตัว, ชื่นชอบความสนุกสนาน, และการสร้างเนื้อหาที่สร้างความบันเทิง.
ลักษณะทางธุรกิจ: ธุรกิจที่ต้องการสร้างความได้เปรียบจากการสร้างทรัพย์สินทางปัญญา, สินค้าที่เน้นความสนุก, และการติดต่อกับกลุ่มเป้าหมายผ่านทางการสร้างเนื้อหาที่แปลกใหม่.
YouTube:
กลุ่มผู้ใช้: ผู้ใช้ YouTube มีลักษณะที่มีความหลากหลายมาก, ทั้งทางอายุ, ระดับการศึกษา, และความสนใจ. นักศึกษา, ครอบครัว, และผู้ใช้ทุกวัยมีการใช้ YouTube เพื่อการแต่งกายความรู้, ความบันเทิง, และการแชร์ประสบการณ์.
ลักษณะทางธุรกิจ: บริษัททุกประเภทสามารถใช้ YouTube เพื่อโปรโมตสินค้าหรือบริการของตน. การสร้างเนื้อหาวิดีโอที่มีคุณภาพสูง, การสอน, หรือการแสดงสินค้าในวิดีโอเป็นวิธีที่ดีในการเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมาย.
ซึ่งทั้ง 5 แพลตฟอร์มต่างล้วนมีฟีเจอร์สำหรับการเผยแพร่โฆษณา ฉะนั้นหากเมื่อเราศึกษาอย่างเข้าใจก็สามารถเลือกแพลตฟอร์มที่ต้องการ ส่วนการขยายไปแพลตฟอร์มอื่นแนะนำว่าให้ทำต่อเมื่อแพลตฟอร์มที่เราใช้ไม่เติบโตไปมากกว่านี้แล้วจะดีที่สุด และช่วยลดงบการตลาดที่อาจบานปลายได้

– ออกแบบ Ads ให้ปัง : ต่อมาเป็นหนึ่งสิ่งสำคัญที่สุดของการทำ Ads ที่ช่วยเพิ่มยอดขายสินค้า นั่นคือ “การออกแบบ” ต่อให้คุณได้กลุ่มตลาดที่ใช่ และ เลือกแพลตฟอร์มที่ถูกต้อง แต่ทำ Ads ออกมาจืดชืดไร้ความน่าสนใจ สุดท้ายทั้งหมดก็สูญเปล่า ก่อนอื่นเราต้องกำหนดก่อนว่า Ads เราคืออะไร เป็นการเชิญชวนให้ซื้อสินค้า, การประกาศสินค้าตัวใหม่ หรือ บอกโปรโมชัน
หลังจากนั้นเลือกสื่อที่ต้องการ เช่น อาจเป็นภาพสื่อโปรโมชันที่เน้นให้เห็นราคาชัด ๆ โดดเด่น หรือ ถ้าเป็นการโปรโมทสินค้าใหม่ ลองทำเป็นภาพขยับหรือคลิปกระตุ้นความน่าสนใจได้ เพราะในปัจจุบันสื่อแบบคลิปสั้นกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก เราสามารถเลือกได้ตามไอเดียที่เราวางไว้
– งบประมาณต้องเหมาะสม : สิ่งสุดท้ายนั่นคืองบประมาณในการยิง Ads ต้องเหมาะสม ไม่น้อยเกินไปหรือมากเกินไป น้อยเกินไปก็อาจทำให้เราไปไม่ถึงเป้าหมายยอดขายสินค้าที่ต้องการ แต่หากมากเกินไปอาจจะได้ผลตอบรับที่ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ฉะนั้นเราต้องประชุมกันก่อนว่าโฆษณาที่เราจะยิงไปต้องการจะสื่ออะไร และผลที่เราต้องได้มากน้อยขนาดไหน เพื่อกำหนดงบประมาณได้อย่างเหมาะสม
โดยคำแนะนำของเราอยากให้เริ่มต้นการยิง Ads ด้วยงบเล็กน้อยก่อน เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้มาและใช้ในการปรับปรุง ก่อนจะเพิ่มงบประมาณมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามแนวทางตลาดที่เราต้องการ

สรุปแล้ว การยิง Ads บนโซเชียลมีเดียอย่างมีกลยุทธ์จะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ คำแนะนำคือควรทดลองและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสินค้าและกลุ่มลูกค้าของเรา และคอยหาความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ เพื่อพัฒนา Ads ของเราให้โดดเด่นและน่าสนใจ แต่หากต้องการผู้เชี่ยวชาญทางด้านคอนเทนต์ออนไลน์ เพื่อพัฒนาการยิง Ads ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น G2B มีบริการมากมายที่ช่วยตอบโจทย์ให้กับคุณ หากสนใจสามารถติดต่อเราได้ดังนี้
Kaikong Social Media Marketing
ติดตามเนื้อหาเพิ่มเติมของ G2B ได้ที่ Facebook และสามารถติดต่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE ของเรา
ข้อมูลอ้างอิง