การระบาดของ COVID-19 ทำให้หลาย ๆ สิ่งเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง หนึ่งในนั้นคือพฤติกรรมของนักช้อปที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ถึงขนาดที่ว่าในปี 2022 นี้ก็มีหลาย ๆ อย่างนักการตลาดต้องปรับแนวคิดกันใหม่ ซึ่งในวันนี้ G2B จะขอนำทุกท่านไปดูพฤติกรรมนักช้อปใน 2022 ว่ามีอะไร แล้วเราจะปรับตัวกันอย่างไร

– การโฆษณาออนไลน์คือส่วนสำคัญ : ในปัจจุบันสื่อดิจิทัลมีความสำคัญต่อชีวิตของเราไปแล้ว รวมไปถึงธุรกิจต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน จากข้อมูลของ Nielsen Ad Intel เผยว่านักช้อปในปัจจุบันจะตรวจสอบข้อมูลสินค้าผ่านสื่อดิจิทัลุึง 41% และอีก 38% ที่ตัดสินใจซื้อทันทีที่ได้เห็น นั่นหมายความว่านักการตลาดในยุคนี้จะต้องเรียนรู้การวางโฆษณาลงสื่อดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ และ เข้าใจแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ให้ประสิทธิภาพของการโฆษณาได้ผลมากที่สุด

– E-Marletplace คือแพลตฟอร์มที่นักช้อปซื้อมากที่สุดในยุคนี้ : ลืมไปได้เลยกับการออกไปซื้อสินค้าที่ห้างหรือตลาดลดราคา การระบาดของ COVID-19 เปลี่ยนแนวคิดของนักช้อปไปทั้งหมด พวกเขาเลือกจะซื้อสินค้าผ่าน E-Marketplace เช่น Shopee หรือ Lazada แทน ทั้งความสะดวกสบาย, เลือกสินค้าได้, สามารถชำระเงินได้หลายช่องทาง ผสานกับความรวดเร็วในระบบขนส่งของประเทศไทยทำให้นักช้อปเลือกความสบายและสะดวกกับชีวิตมากกว่า ฉะนั้นนักการตลาดต้องเลือกใช้ E-Marketplace ให้ดี ออกแบบหน้าร้านให้น่าดึงดูด และต้องมีฟังก์ชันที่อำนวยความสะดวกแก่นักช้อปอย่างเต็มที่

– ความเร็วคือสิ่งที่นักช้อปยุคนี้ให้ความสำคัญ : ปัจจุบันคนเราไม่ต้องการยืนรอ หรือ เสียเวลาไปกับอะไรที่ไร้สาระ นักช้อปยุคนี้เช่นกัน ความรวดเร็วทันใจในทุกขั้นตอนการซื้อสินค้าถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ช้าเพียงเล็กน้อยอาจส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อทันที ฉะนั้นนักการตลาดจำเป็นต้องวางแผนระบบร้านค้าให้ดี มีความรวดเร็ว และมีขั้นต้อนการสั่งซื้อที่น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้

– ต้องตรงไปตรงมาและจริงใจเท่านั้น : ไม่ว่าจะยุคไหน นักช้อปก็ยังต้องการความตรงไปตรงมาและความจริงใจจากผู้ชายสินค้าเสมอ และเมื่อมาถึงยุคออนไลน์สิ่งเหล่านี้ยิ่งสำคัญ โดยเฉพาะผู้ค้าต้องรับกับเสียงวิจารณ์หลากหลายในตัวสินค้าและบริการของเรา ต้องตรงไปตรงมากับทุกรีวิวที่เข้ามา และที่สำคัญต้องแสดงถึงความจริงใจว่าเราต้องการขายสินค้าที่มีคุณภาพแก่ลูกค้าทุกท่าน สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ประสบความสำเร็จได้ง่ายยิ่งขึ้น

นี่คือ 4 ข้อของนักช้อปในยุค 2022 ที่เราต้องให้ความสำคัญและปรับเปลี่ยนยุทธวิธีในการขายสินค้าให้สอดคล้องมากขึ้น อย่าได้ประมาทเพราะอัตราการช้อปปิ้งออนไลน์มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ นั่นหมายความว่านักช้อปจะมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนตามไปด้วยเช่นกัน ขอให้ศึกษากันให้ดี หรือหานักการตลาดที่มีความสามารถมาช่วยดูแลคุณนะครับผม

ขอขอบคุณข้อมูลจาก digitorystyle

inquiry form